วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เลือกลิปสติก ให้เหมาะกับตัวเอง

ลิปสติก



เลือกลิปสติกให้เหมาะกับตัวเอง (เดลินิวส์)

           ใครที่ต้องทาลิปสติกเป็นประจำ และไม่รู้ว่าจะเลือกยังไงให้เหมาะกับตัวเอง วันนี้เรามีมาบอกคะ...

            ลิปกลอส ช่วยให้ริมฝีปากมันวาว ดูอวบอิ่มขึ้น ลิปกลอสบางชนิดมีสีอ่อนบางดูใส ๆ แต่บางชนิดก็มีสีเข้มให้ริมฝีปากดูวาว ๆ ข้อเสียของลิปกลอส คือ ทาแป๊บเดียวก็หายวาวแล้ว จึงจำเป็นต้องพกไว้เติมบ่อย ๆ

            ลิปสติกเนื้อซาตินหรือเนื้อเชียร์ เนื้อแบบนี้ทาออกมาปากจะดูดี เพราะมีมอยซ์เจอไรเซอร์และน้ำมันอยู่มาก เวลาเลือกสีให้สังเกตว่าสีที่อยู่ในแท่งจะดูเข้มกว่าสีที่ทาอยู่บนปาก

            ลิปเพนซิลหรือลิปไลเนอร์ ไว้ใช้เขียนขอบปากเพื่อปรับรูปทรงปาก หรือใช้ทาทั้งปากเลยก็ได้ ใช้ร่วมกับลิปสติกเนื้อไหนก็ได้

            ลิปสติกเนื้อครีม ส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบของขี้ผึ้ง จึงไม่ทำให้ปากแห้ง สีติดทนนาน

            ลิปสติกเนื้อแมทท์หรือเนื้อด้าน จะมีสีสันสวย แต่เนื้อจะแห้งด้าน ไม่เหมาะกับคนปากแห้ง

           รู้อย่างนี้แล้ว ลองหาลิปสติกที่เหมาะกับริมฝีปากของตัวเองมาใช้กันดูได้...

สีสันเพื่อสาวผิวสี


สีสันเพื่อสาวผิวสี (Lisa)

 จะผิวเกรียมแดด หรือผิวคล้ำมาแต่กำเนิด ผู้หญิงทุกคนมีสิทธิ์สวย

          เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ดังนั้น ผู้หญิงไทยค่อนประเทศจึงมีสีผิวสองสีจนถึงผิวสีออกเข้มคล้ำ สำหรับสาวผิวขาวในบ้านเรานั้นแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ แต่เหตุผลกลใดก็ไม่ทราบ เรามักจะเห็นหญิงไทยใช้เมคอัพสีสันที่ไม่เข้ากับสีผิวตัวเองเลย

          สิ่งสำคัญในการที่จะเลือกใช้สีสันของเมคอัพให้เข้ากับสีผิวของตัวเองได้อย่างถูกต้องนั้น ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าโทนของสีผิวแบ่งออกเป็นทั้งโทนร้อนและโทนเย็น 
          โทนร้อน คือ ผิวที่มีส่วนผสมของสีเหลือง สีส้ม สีน้ำตาล หรือสีแทน สาวไทยส่วนมากจะมีสีผิวอยู่ในโทนนี้

          สำหรับโทนเย็น คือ กลุ่มของผู้หญิงที่มีสีผิวค่อนข้างดำคล้ำ คือสีผิวมีส่วนผสมของสีน้ำเงินอยู่ ค่อนข้างมาก หรือหมายถึงสีผิวของผู้ที่ผิวมีสีออกไปทางขาวจัด พื้นสีผิวจะแฝงไว้ด้วยสีเทา สีฟ้า สีน้ำเงิน


          เมื่อวิเคราะห์สีผิวของตัวเองได้แล้วเราจะสามารถเลือกสีของรองพื้น สีแป้ง สีบลัชออน และสีลิปสติกได้เหมาะสมกับสภาพสีผิวตัวเอง
     รองพื้น ควรเลือกให้ใกล้เคียงกับสีผิวหน้ามากที่สุด โดยทดสอบก่อนที่บริเวณกรามทั้งสองข้าง ถ้าเกลี่ยแล้วเนียนกลืนเข้ากับสีผิวแสดงว่าเลือกได้ถูกต้อง

     แป้งฝุ่น เลือกตามโทนของสีผิวหรือเลือกตามสีของรองพื้น ซึ่งแป้งฝุ่นมีทั้งโทนเหลือง ส้ม ชมพู แทน

     อายแชโดว์ นอกจากเลือกตามสีของผิวแล้ว ควรเลือกให้เข้ากับบุคลิก สีเสื้อผ้า กาลเทศะ รวมทั้งอารมณ์ของคุณด้วย ขอแนะนำให้ใช้สีน้ำตาลเป็นหลัก ส่วนจะมีสีอื่นผสมลงไปโดยเน้นสีหนักไปด้านได้ ควรดูตามโทนของสีผิว เช่น ผิวโทนร้อนใช้สีน้ำตาล ทองแดง ทอง เบจ งาช้าง ผิวโทนเย็นใช้สีปนเทา ม่วง หรือสีฟ้า

     บลัชออน สาวผิวสองสีควรเลือกบลัชออนสีออกส้ม น้ำตาล สาวผิวคล้ำจัดควรเลือกสีชมพู แดงแอปเปิ้ล น้ำตาล

     มาสคาร่า ควรเลือกชนิดกันน้ำได้ สำหรับผู้หญิงไทยควรเลือกมาสคาร่าสีดำ น้ำตาลเป็นหลัก หากต้องการเพิ่มสีสันให้กับตัวเอง สาวผิวสองสีควรเลือกโทนสีน้ำตาล เขียว และสีฟ้า ส่วนสาวผิวคล้ำควรเลือกสีดำ เนวีบลู ม่วง และน้ำเงิน

     ลิปสติก สาวผิวสองสีหรือสีโทนร้อนควรใช้ลิปสติกสีออกน้ำตาล ใช้วิธีการไล่ระดับสีได้โดยผสมสีอื่นลงไปได้ เช่น สีแดง ชมพู และส้ม สาวผิวคล้ำหรือสีโทนเย็น ควรใช้ลิปสติกสีออกชมพูโดยไล่ระดับสีได้ด้วยการผสมสีอื่นลงไป เช่น สีแดง ส้ม ม่วง

 ได้สีเหมาะกับผิว เท่านี้ก็สวย...

วิธีการแต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเอง


วิธีการแต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเอง (Woman Plus)

 วิธีการแต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเอง แตกต่างจากการแต่งหน้าแบบปกติอย่างไร และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ควรใช้โทนสีประมาณไหนคะ ไม่อยากจ้างช่างแต่งหน้าแพง ๆ น่ะค่ะ
          ...การแต่งหน้ารับปริญญา ขั้นตอนส่วนใหญ่ไม่ต่างจากการแต่งหน้าปกติ แต่อาจเน้นรายละเอียด มีความพิถีพิถันมากขึ้น เพราะต้องถ่ายรูปและอยู่กลางแจ้ง จะมีเหงื่อออกมากกว่าปกติ ต้องใช้เครื่องสำอางชนิดกันน้ำ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความบางเบาเป็นธรรมชาติ เพราะเห็นชัดมาก ดูสวยในระยะใกล้ ๆ

          ถ้าไม่มั่นใจฝีมือตัวเองก็ไม่ควรเสี่ยง เพราะไม่สามารถย้อนเวลากลับมาได้อีก และเป็นโอกาสพิเศษในชีวิต ไม่ได้มีทุกวัน แต่ถ้าอยากประหยัดก็ต้องฝึกฝีมือ แล้วถ่ายรูปดู จะได้รู้ว่าควรจ้างช่างหรือไม่ อย่าลืมให้คนรอบข้างช่วยดูด้วย อย่าเข้าข้างตัวเอง เพราะอาจจะต้องมานั่งเสียใจทีหลัง

เพิ่มเสน่ห์ให้คิ้วสวยคม


เพิ่มเสน่ห์ให้คิ้วสวยคม (สวยด้วยแพทย์)


          ความสวยความงามเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณผู้หญิงทุก ๆ คน ในแต่ละส่วนของร่างกายหากรู้จักเติมแต่งและดูแลให้สวยดูดีอยู่เสมอ ก็จะช่วยเพิ่มบุคลิกที่ดีและความมั่นใจให้กับตัวเอง
          คิ้ว เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามยามแต่งหน้า เพราะช่วยเพิ่มเสน่ห์บนใบหน้าได้ โดยทั่วไปแล้วสาว ๆ แต่ละคนมีลักษณะของคิ้วที่แตกต่างกันออกไป เข้มบ้าง บางบ้าง ซึ่งทำให้เกิดปัญหาว่าจะแต่งคิ้วอย่างไรให้ดูสวยคม เพื่อเพิ่มความสวยงามบนใบหน้า เรื่องคิ้วแก้ปัญหาไม่ยาก แต่งเสริมเติมสวยมีคำแนะนำมาฝากค่ะ

           สำหรับสาวคิ้วหนาหรือคิ้วเข้ม ไม่ยากเลย เพียงแค่กันคิ้วให้ได้รูปเท่านั้นไม่จำเป็นต้องเขียนคิ้วเพิ่ม เพราะคิ้วหนาอยู่แล้ว เพียงแค่ใช้แปรงปัดคิ้วอีกเล็กน้อย เท่านี้ คิ้วก็จะได้รูปสวยงามดั่งใจ

           ส่วนสาวที่ไม่ค่อยมีคิ้ว ถ้าอยากจะมีคิ้วที่สวยคงต้องเขียนคิ้วเพิ่ม โดยใช้ดินสอสีน้ำตาลอ่อน ๆ หรือน้ำตาลแดงเพราะเป็นสีที่ดูเป็นธรรมชาติ

            สุดท้ายคือ สาวที่มีรูปคิ้วสวยอยู่แล้วแต่คิ้วบาง อันนี้ไม่ยากค่ะ ให้ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลอ่อน ๆ ช่วย โดยเขียนตามรูปคิ้วเดิมที่สวยอยู่แล้ว

 Tips 

          การเขียนคิ้วที่ถูกวิธี ต้องไม่เขียนเน้นที่หัวคิ้วให้หนาและดูคมมาก เพราะจะทำให้ดูเหมือนคนยักคิ้วอยู่ ลักษณะการเขียนคิ้วที่ดูเป็นธรรมชาตินั้น ให้เขียนที่หัวคิ้วเป็นสีกลาง ๆ ไม่ต้องเข้มมาก และค่อย ๆ ไล่สีไปจนเข้มที่หางคิ้ว จะช่วยให้คิ้วดูคมและสวยขึ้น
          หมั่นเอาใจใส่กับความสวยงาม คอยดูแลและเอาใจใส่ร่างกายอยู่เสมอ รับรองเลยว่า คุณจะสวยสดใส ทั้งทางกายและจิตใจแน่นอนค่ะ

คุณรู้จัก เครื่องสำอาง ดีเพียงใด

เครื่องสำอาง

คุณรู้จัก... เครื่องสำอาง ดีเพียงใด (สวยด้วยแพทย์)


          สำหรับคอลัมน์นี้ เราได้เสนอวิธีการแต่งเสริมเติมใบหน้าให้สวยงามไปแล้วหลายแบบ รวมถึงเทรนด์การแต่งหน้าใหม่ ๆ ตามฤดูกาล มาในวันนี้เราขอเสนอเรื่องของเครื่องสำอางว่า แท้จริงแล้วเครื่องสำอางคืออะไร แล้วทำไมบางคนถึงแพ้เครื่องสำอาง เป็นความรู้พื้นฐานสำหรับสาว ๆ ค่ะ
          เครื่องสำอางสามารถจำแนกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้ ครีมสำหรับล้างหน้า สบู่ โลชั่น ผลิตภัณฑ์ใช้ก่อนแต่งหน้า และผลิตภัณฑ์แต่งหน้าต่าง ๆ สำหรับสาเหตุที่สาว ๆ 

          บางท่านต้องประสบปัญหาแพ้เครื่องสำอางนั้นมาจาก

         เป็นภูมิแพ้แล้วมาใช้เครื่องสำอาง ทำให้เกิดการระคายเคืองเพิ่มมากขึ้น

         มีสารที่มีอันตรายปะปนอยู่ในเครื่องสำอาง (กรณีนี้ไม่ค่อยพบเห็นในปัจจุบันแล้ว)

         ใช้ผิดวิธี เช่น มีสิวขึ้นตามใบหน้าเยอะ แล้วคิดว่าการทารองพื้นให้หนาขึ้นจะช่วยปกปิดได้ ซึ่งแท้จริงแล้วกลับกลายเป็นการเพิ่มการอุดตันของรูขุมขน ทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นได้อีก

        ใช้เมื่อร่างกายไม่อยู่ในสภาพปกติ เช่น เป็นไข้

          ดังนั้น หากจำเป็นต้องใช้เครื่องสำอาง จึงต้องเข้าใจคุณสมบัติของเครื่องสำอางแต่ละชนิด และระมัดระวังทุกครั้งที่ใช้

          นี่เป็นทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ นำมาฝากค่ะ

         แม้จะเป็นเครื่องสำอางที่ใช้เป็นประจำแต่หากร่างกายอยู่ในสภาพไม่ปกติ เครื่องสำอางอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองโดยที่เราคาดไม่ถึงได้

         หากใช้เครื่องสำอางแล้วเกิดผดผื่นขึ้น ให้หยุดใช้ทันที เพราะนั่นคือคุณแพ้เครื่องสำอางแล้ว

         ผู้หญิงบางคนช่วงก่อนและหลังมีรอบประจำเดือนจะเกิดผดผื่นขึ้นจากการใช้เครื่องสำอาง นั่นเป็นเพราะระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงไม่ใช่การแพ้เครื่องสำอางค่ะ

         ต้องล้างเครื่องสำอางทุกครั้งเมื่อถึงบ้าน ไม่ควรปล่อยให้ข้ามคืน เพราะจะทำให้รูขุมขนอุดตัน เป็นเหตุให้เกิดผดผื่น และสิวได้

         เมื่ออยากเปลี่ยนเครื่องสำอางใหม่ ให้ทดสอบว่าผิวเราจะระคายเคืองหรือไม่ที่บริเวณด้านในแขนตรงใต้รักแร้ ซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวจะรับสัมผัสได้ไวเป็นพิเศษ

         ห้ามเสียดายเด็ดขาดถึงแม้เครื่องสำอางจะราคาแพงก็ตาม หากทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง

         เพื่อให้การใช้เครื่องสำอางขอบคุณเกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพ แต่งแต้มใบหน้าให้สวยงานตามต้องการ เราจึงต้องทำความเข้าให้ถ่องแท้ค่ะ

เลิกหลบกล้อง...ด้วยเทคนิคง่าย ๆ

วิธีแต่งหน้า

เลิกหลบกล้อง... ด้วยเทคนิคง่าย ๆ (สวยด้วยแพทย์)


          สาวไหนที่มีอาการขยาดกล้อง ไม่กล้าถ่ายรูป เราจะช่วยให้คุณกลับมามั่นใจได้อีกครั้งค่ะ โดยใช้การแต่งหน้าที่รับกับสถาพแสงพอดี ซึ่งจะช่วยให้รูปที่ถ่ายออกมาดูสวยใสเป็นธรรมชาติ 

          เทคนิคที่นำมาแนะนำนี้แสนง่าย เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกโทนสีให้เหมาะสมเท่านั้นเองค่ะ

           รองพื้น เลือกที่มีโทนสีเหลือง ห้ามใช้โทนสีชมพูถึงสีอ่อน ๆ เด็ดขาด เพราะจะทำให้ดูขาวเว่อร์เกินไปเมื่อเจอแสงแฟลช

           แป้ง ควรใช้แป้งที่มีเนื้อด้าน เลี่ยงแป้งที่มีประกาย เพราะจะทำให้คุณดูขาวเกินไป เมื่อแสงแฟลชมากระทบ

           บลัชออน ใช้ที่เข้ากับสีผิวเพื่อเพิ่มความใสให้กับผิว ควรใช้สีธรรมชาติลงบริเวณโหนกแก้ม คาง หน้าผาก และสันจมูก เพื่อช่วยให้ดูสวยใสเป็นธรรมชาติ

           ดวงตา เพื่อให้ดูดวงตาดูโตโดดเด่น ขอบตาล่างให้ลงอายไลเนอร์ด้วยดินสอ เขียนบาง ๆ ตามแนว แล้วค่อย ๆ เกลี่ยให้เนียน ส่วนขอบตาบนใช้อายไลเนอร์แบบน้ำได้เลย หรือใช้ดินสอเขียนเหมือนขอบตาล่างก็ได้ สุดท้ายปัดมาสคาร่าเพื่อความโฉบเฉี่ยว หลีกเลี่ยงการแต่งดวงตาด้วยสีเข้มเด็ดขาด เพราะจะทำให้ดวงตาดูเล็กลงทันที

           ริมฝีปาก เน้นปากให้เด่นด้วยการตัดขอบปากด้วยลิปไลเนอร์ จากนั้น ใช้ลิปกลอสเพิ่มความชุ่มชื้น แล้วจึงทาลิปสติกเป็นขั้นสุดท้าย ห้ามใช้ลิปสีเข้มและทากลอสให้ดูมันเยิ้มเป็นอันขาด

          หากว่าต้องถ่ายรูปในสภาวะแสงจัด ๆ อย่างช่วงกลางวัน ควรแต่งหน้าโทนสีสดใส ห้ามเข้มจัด เพื่อให้ใบหน้าดูเนียนสวยใสเป็นธรรมชาติ หากเป็นแสงเบา ๆ ในช่วงเย็น ให้แต่งหน้าโทนสีเบาบางดูเป็นธรรมชาติ เพราะจะรับกับสภาพแสงในช่วงนี้และช่วยให้สีผิวและใบหน้าดูนวลยิ่งขึ้น

รู้ได้อย่างไร ว่าเราแพ้เครื่องสำอาง


รู้ได้อย่างไร ว่าเราแพ้เครื่องสำอาง (Labelle)


           การแพ้เครื่องสำอางนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และสามารถเกิดขึ้นได้ทันทีที่สัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ (Allergen) หรืออาจมีอาการเกิดขึ้นในภายหลังก็ได้ ผู้ที่แพ้สารใดแล้ว เมื่อสัมผัสกับสารนั้นเพียงเล็กน้อยก็เกิดการแพ้ขึ้นได้ สารที่พบว่าก่อให้เกิดการแพ้ได้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ คือ สารแต่งกลิ่นน้ำหอม (fragrance/perfume) รองลงมาได้แก่ สารกันเสีย(preservatives) และสารป้องกันแสงแดด (Sunscreens)

           ลักษณะการแพ้เครื่องสำอางมีด้วยกันหลายรูปแบบ ช่น เกิดการปวดแสบปวดร้อน หรือรูสึกคันยิบ ๆ อาการจะเกิดไม่เกิน 10 นาที บางครั้งก็เกิดอาการปรากฎเป็นผื่นแดงคัน ถ้าแพ้มากก็เป็นตุ่มแดงตุ่มน้ำหรือเป็นปื้นนูนแบบลมพิษ เคยสังเกตหรือไม่ว่า บางคนอายุมากแล้วก็ยังมีสิวเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าอยู่ ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเกิดจากการแพ้เครื่องสำอางได้เช่นกัน ผู้ที่รักสวยรักงามทุกคน คงไม่อยากเจอปัญหาแพ้เครื่องสำอางภายหลังการใช้เป็นแน่

           ดังนั้นเราต้องทดสอบการแพ้ ก่อนที่จะใช้เครื่องสำอางกับผิวหน้าของเรา โดยวิธีการดังนี้ คือ ให้ทาเครื่องสำอางตรงบริเวณท้องแขนทิ้งไว้ประมาณ 24-28 ชั่วโมง หากไม่พบความผิวปกติแล้วจึงค่อยใช้ หรืออาจทดสอบอีกวิธีหนึ่งก็ได้คือ ทาเครื่องสำอางที่ซื้อมาบริเวณข้อพับแขน วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ถ้าไม่มีผื่นแดงเกิดขึ้นแสดงว่าใช้เครื่องสำอางนั้นได้ งามช้าลงสักหน่อยแต่มั่นใจคงดีกว่างามเร็วแบบเสี่ยง ๆ นะครับ

            ผู้ที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติทาแล้วจะไม่เกิดอาการแพ้ เพราะทำมาจากธรรมชาติแล้วย่อมปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ซึ่งไม่จริงเสมอไป ทั้งนี้ เนื่องจากการแพ้เป็นปฏิกิริยาที่ซับซ้อนเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของร่างกายแต่ละคนจึงเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ประกอบกับเครื่องสำอางสมุนไพร เช่น แชมพู สบู่ โลชั่นทาผิวหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมายที่ทำมาจากสมุนไพรเพียงอย่างเดียว แต่มีสารเคมีอื่นผสมอยู่ด้วย ดังนั้น จึงไม่สามารถรับรองได้ว่าใช้แล้วจะไม่ก่อให้เกิดการแพ้

แต่งหน้าสวยสดใส ด้วยสีพาสเทล

แต่งหน้า



แต่งหน้าสวยสดใส ด้วยสีพาสเทล (สุดสัปดาห์)

          นอกจากเมคอัพสีเข้มอึมครึมโลโก้ประจำฤดูหนาว กรุณาอย่ามองข้ามสี "พาสเทล" ที่จะช่วยให้คุณดูสดใสร่าเริงขึ้นได้ทุกวี่วัน

          Sweet Pink

           ลูบไล้เบสรองพื้นให้ทั่วใบหน้า เพื่อปรับสภาพสีผิวให้แลดูสม่ำเสมอและกระจ่างใส ก่อนปัดแป้งฝุ่นเนื้อบางเบาทับ

            ไล้บลัชออนสีเบจเบาๆ ให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นเพิ่มลูกเล่นให้ดวงตาดูหวานฉ่ำด้วยการเขียนเจลอายไลเนอร์สีชมพูที่บริเวณหัวตาและขอบตาล่าง ก่อนปัดมาสคาราให้ขอบตางามงอนทั้งขนตาบนและล่าง

            ปัดบลัชออนสีชมพูบริเวณพวงแก้ม แล้วใช้บลัชออนสีชมพูอ่อนผสมประกายระยิบระยับปัดทับบริเวณเหนือโหนกแก้มเพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติยิ่งขึ้น

            บำรุงริมฝีปากด้วยลิปพลัม ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและเติมเต็มร่องปากให้ดูเนียนเรียบ ปิดท้ายด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนแสนหวานทั่วเรียวปาก

          Tip
          อยากใช้เมคอัพสีชมพูต้องทำให้ใบหน้าดูขาวกระจ่างใสก่อน โดยใช้เบสรองพื้น รองพื้นเนื้อบางเบา หรือคอนซีลเลอร์ปกปิดร่องรอยความหมองคล้ำ

เทรนด์ใหม่ สโมกกี้อาย สีสดใส

แต่งหน้า

เทรนด์ใหม่ สโมกกี้อาย สีสดใส
 (สุดสัปดาห์)

             ตอนนี้หลายคน เริ่มเบื่อสโมกกี้อายแบบเดิมๆ เช่นเดียวกับ อารอน เดอ เมย์ (Aaron De May) เมคอัพอาร์ติสท์มือหนึ่งของลังโคมที่ขอฉีกกรอบสีสันบนเปลือกตามาในรูปแบบใหม่ เน้นโทนสีฟ้าคราม และทอง เป็นหลัก

            เริ่มจากกรีดอายไลเนอร์เนื้อครีมสีดำสนิทให้ชิดโคนขนตาที่สุด จากนั้นใช้ดินสอเขียนขอบตาสีน้ำเงินเข้มเขียนบริเวณเปลือกตาบนและหางตา ก่อนไล้อายแชโดว์เมแทลลิกสีน้ำเงินทับเส้นดินสอสีน้ำเงินให้ดูฟุ้ง ๆ แล้วเน้นหัวตาและเหนือชั้นพับตาด้วยอายแชโดว์สีทอง

             แต่ถ้าอยากให้ใบหน้าดูสว่างสดใส ต้องไล้อายแชโดว์สีทองให้ทั่วเปลือกตาบางๆ แล้วเขียนขอบตาด้วยดินสอสีน้ำเงินเข้ม จากนั้นไล้อายแชโดว์สีครามทับบริเวณชั้นพับตาเบา ๆ ก่อนปัดมาสคาร่าสีทองทับ 2-3 ชั้น

             เทรนด์สโมกกี้อายแบบใหม่นี้ควรเน้นให้ผิวหน้าสดใส เทคนิคง่ายๆ คือ ใช้แป้งเนื้อทองประกายระยิบระยับไล้บริเวณกรอบหน้าที่จะสัมผัสแสง เช่น สันจมูก โหนกคิ้ว และหน้าผาก แถมเทคนิคแต่งเรียวปากให้ดูเย้ายวนอีกนิดด้วยการใช้นิ้วแต้มลิปสติกสีแดงที่ กลางริมฝีปาก แล้วค่อย ๆ เกลี่ยออกไปทางมุมปาก ก่อนใช้ลิปกลอสสีทองแตะกึ่งกลางริมฝีปากอีกเล็กน้อย

เคล็ดลับแต่งตาให้สวย

วิธีแต่งหน้า

เคล็ดลับแต่งตาให้สวย 
(Lisa)

             ดวงตาเป็นสิ่งที่ใคร ๆ มักจะมองเห็นกันเป็นอันดับแรก ฉะนั้นก็ควรพิถีพิถันในการแต่งตาของคุณให้สวยชวนมอง ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ของเรานี้

          วิธีแต่งตาสำหรับงานกลางคืนที่ใช้ได้ผลที่สุดคือ วาดของตาด้วยอายไลเนอร์สีเทาเข้มหรือดำ แล้วทาอายชาโดว์สีอ่อนๆ ที่มีความแวววาวลงบนหัวตา

          การแตะแต้มคอนซีลเลอร์ลงบนเปลือกตา โหนกคิ้ว และบริเวณหัวตา จะช่วยทำให้สีผิวบนเปลือกตาดูเรียบเสมอกัน แถมยังช่วยให้อายแชโดว์เกาะติดได้อย่างยาวนานขึ้นด้วย

          เพิ่มประกายเรืองรองให้ดวงตาดูเปล่งประกายสดใส ด้วยการทาอายแชโดว์สีบรอนซ์ลงในบริเวณขอบตาบน

          วิธีทำให้ดวงตาดูโตและสดใสขึ้นคือ ปัดมาสคาร่าสีดำลงบนขนตาหนึ่งรอบ แล้วตามด้วยมาสคาร่าสีฟ้าทับลงไปอีกหนึ่งรอบ สีฟ้าจะช่วยกลบเกลื่อนความหม่นหมอง ช่วยให้บริเวณตาขาวดูขาวสดใสขึ้นได้

          เพื่อให้ขนตาดูยาวเรียวเป็นพิเศษ ก็ลองปัดมาสคาร่าเฉพาะบริเวณปลายขนตาในรอบแรก รอให้แห้งแล้วปัดทับลงไปอีกหนึ่งถึงสองรอบ แต่ครั้งหลังนี้คุณต้องปัดมาสคาร่าตลอดความยาวของเส้นขนตา ตั้งแต่โคนจนถึงปลาย