วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

เคล็ดลับการแต่งหน้าแฟนซี


Fancy Makeup (Woman's Story)

          ช่วงเวลาแห่งการสังสรรค์ก็กำลังจะเวียนวน กลับมาอีกครั้ง แน่นอนว่าขึ้นปีใหม่นี้สาว ๆ ทุกคนต้องเตรียมพร้อมกับงานสังสรรค์สไตล์แฟนซีกันอย่างสนุกสนาน ที่แน่ ๆ ก็ต้องเตรียมพร้อมกับการแต่งหน้าแบบแฟนซีกันเอาไว้ด้วยนะคะ และก็ไม่ยากอย่างที่คิดนะคะ เพราะนอกจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ รวมไปถึงการแต่งหน้าก็จะช่วยให้คุณสวยงามดูมีสีสันน่าสนใจอีกด้วยล่ะค่ะ
Eyes

          เทรนด์การแต่งหน้าแบบแฟนซีต้องเน้นสีสันจัดจ้านนิดหน่อยค่ะ เพราะฉะนั้นสีเมคอัพของดวงตาก็ควรที่จะเป็นสีสันสดใสอย่างสีฟ้า สีแดงเข้ม สีชมพู ฯลฯ หรือจะใช้เทรนด์สโม้กกี้อายอย่างสีดำ สีน้ำตาลเข้ม สีเทาก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ

Eyelash 
          ขนตาปลอมก็เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งที่เหมาะกับการแต่งหน้าแบบแฟนซี เพราะมีขนตาแบบแฟนซีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่แบบแฟนซีแบบธรรมดาจนถึงแบบอลังการเลยเชียวค่ะ

Lip

          สีของลิปสติกในการแต่งหน้าเทรนด์นี้ก็คงไม่พ้นเฉดสีเข้มทั้งหลาย ทั้งสีแดงเข้ม สีม่วง สีชมพู หรือแม้กระทั่งสีดำ ก็ได้รับความนิยมเช่นกันในการแต่งหน้าแฟนซีค่ะ

เทคนิคทาลิปสติกให้อวบอิ่ม

วิธีแต่งหน้า

เทคนิคทาลิปสติกให้อวบอิ่ม (Woman's Story)
          ฉบับนี้เรามีเทคนิคดี ๆ ในการเนรมิตเรียวปากสวย ๆ มาฝากสาว ๆ กันค่ะ เทคนิค 3 ขั้นตอนนี้ จะช่วยให้เรียวปากของคุณอวบอิ่มเป็นธรรมชาติ แบบไม่ต้องพึ่งพาศัลยกรรมใด ๆ เลยค่ะ
          Step 1 เลือกทาลิปสติกสีเดียวกับสีของปาก ให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด และควรเลือกลิปสติกสีสว่างหน่อยนะคะ เพราะถ้าหากริมฝีปากบนคล้ำ แล้วทาสีคล้ำก็จะทำให้เรียวปากดูคล้ำไปกันใหญ่ค่ะ

          Step 2 ทาเติมด้วยลิปสติกที่มีส่วนผสมของ Shimmer ทับลงไปอีกครั้ง เลือกสีแบบไลท์เฉดค่ะ

          Step 3 ใช้ลิปกลอสที่มีส่วนผสมของ Shimmer ทาทับอีกครั้งให้เป็นรูปตัวทีกลับหัว โดยทาเพียงครั้งเดียวที่ริมฝีปากด้านล่าง แล้วค่อย ๆ เกลี่ยให้ทั่ว ลิปกลอสจะได้ไม่เยิ้มจนเกินงาม

          เพียงแค่ 3 ขั้นตอนดังกล่าว สาว ๆ ก็จะมีริมฝีปากที่สวยอย่างอวบอิ่มแบบธรรมชาติสั่งได้แล้วค่ะ

วิธีแต่งหน้า เปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย

วิธีแต่งหน้า

Make It Easy (Woman's Story)
          ใครคิดว่าการแต่งหน้าเป็นเรื่องยาก ลองฟังทางนี้สิคะ เราจะพาสาว ๆ มาเปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายกันค่ะ รับรองว่างานนี้โดนใจสาวสวยยุค 2010 ชัวร์จ้า!!! 
          Eyes
          ไล้อายแชโดว์สีส้มอมทองทาให้ทั้งเปลือกตา สร้างมิติให้กับดวงตาโดยใช้สีน้ำตาลทองบริเวณขอบตาขึ้นไปจนถึงรอบพับเปลือก ตา และทาจากหางตาบริเวณขอบตาล่างมายังกึ่งกลางตา ใช้ผู้กันแต้มสีส้มอมทองแล้วไล้ที่หัวตาเล็กน้อย จากนั้นใช้ดินสอเขียนขอบตาสีน้ำตาลเข้ม เขียนให้ชิดขอบตาบนค่ะ

          Cheek 
          ใช้บลัชออนสีส้มหรือสีพีช ปัดบริเวณโหนกแก้ม โดยขณะที่ปัดให้ยิ้มเล็กแล้ว จะเห็นโหนกแก้มได้ชัดขึ้น

          Lip
          ทาลิปสติกสีม่วงอมแดง แล้วตามด้วยลิปกลอสประกายมุก เพื่อเพิ่มความเปล่งประกายบนริมฝีปากค่ะ

          และแล้วความสวยก็มาเยือนคุณได้อย่างง่ายดายทีเดียวค่ะ แหม ! วิธีดี ๆ แสนง่ายแบบนี้เห็นทีสาว ๆ ต้องกระซิบต่อ ๆ กันไปแล้วล่ะจ๊ะ...

แต่งหน้าสวยใส รับเทศกาลตรุษจีน


แต่งหน้าสวยใส รับเทศกาลตรุษจีน (Women's Story)

          เดือนกุมภาพันธ์นอกจากจะเป็นเดือนแห่งความรักแล้ว เดือนนี้ยังมีเทศกาลสำคัญ ๆ อย่างวันตรุษจีนรวมอยู่ด้วยนะคะ แน่นอนว่าสาวหมวยทั้งหลายทั่วบ้านทั่วเมือง กำลังเลือกเฟ้นชุดสวย และการแต่งหน้าให้สวยใสให้สมกับเป็นอาหมวยอีกด้วยล่ะค่ะ 

           How To Make Up…

           เริ่มปรับผิวหน้าด้วยรองพื้น เมคอัพเบส หรือแป้ง ให้ผิวเนียนเรียบเสียก่อนนะคะ

           จากนั้นมาเริ่มแต่งตากันก่อนนะคะ ให้คุณวาดอายไลเนอร์แบบน้ำสีดำสนิทลงไปที่ขอบตาด้านบนให้เป็นเส้นจะหนา หรือจะบางก็แล้วแต่รูปตาของแต่ละคนด้วย บางคนแค่วาดเส้นบาง ๆ ก็เห็นชัดแล้ว แต่บางคนอาจจะต้องวาดเส้นหนาสักหน่อย เพราะเปลือกตาค่อนข้างหนาทำให้มองไม่เห็นเส้นอายไลเนอร์ 

           Tips..

           เทคนิคก็คือ เวลาจะวาดอายไลเนอร์ให้กลั้นหายใจแล้วลากที เดียวเลย จะได้เส้นอายไลเนอร์ที่สม่ำเสมอ อย่าลืมตวัดปลายเส้นอายไลเนอร์ให้ดูชี้ขึ้นด้วยนะคะ แค่นี้คุณก็จะได้อายไลเนอร์ที่คมกริบและตวัดหางดูเก๋แบบสาวหมวยแล้วจ๊ะ

           จากนั้นปัดมาสคาร่าให้ขนตางอนงาม ถ้าอยากปัดให้ดูเป็น สาวหมวยหน่อย ควรจะปัดให้ขนตาที่บริเวณหางตาดูงอนชี้ขึ้นไป 

           ส่วนแก้มก็แค่ปัดด้วยบลัชออนสีเบา ๆ นู้ด ๆ ก็พอ แล้วทาลิปสติกสีแดงแบบเขียนให้ขอบปากเป็นเส้นคมกริบด้วยนะคะ

          เพียงแป๊บเดียวคุณก็จะเป็นสาวหมวยสุด เปรียวจิ๊ดกันแล้วล่ะค่ะ..

6 เมกอัพ เทรนด์สุดฮอต ประจำฤดูร้อน 2010



MAQUILLAGE



6 เมกอัพ เทรนด์สุดฮอต ประจำฤดูร้อน 2010 (ไทยรัฐ)
         เทรนด์ความงามและสีสันของเมกอัพ ในฤดูร้อน ปี 2010 ได้แรงบันดาลใจจากความงามที่หลากหลาย ทำให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจ คาดเดายาก ทั้งสวย และโดดเด่นไม่ซ้ำกัน...

         หมดยุคสมัยแล้ว สำหรับความสวยแบบแพทเทิร์นตายตัว เพราะเทรนด์ความงามและสีสันของเมกอัพ ในฤดูร้อน ปี 2010 ได้แรงบันดาลใจจากความงามที่หลากหลาย ทำให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจ คาดเดายาก และ เปี่ยมด้วย เอกลักษณ์เฉพาะตัว คลี่คลายออกมาได้หลายลุคหลากอารมณ์ ล้วนแต่ยาก จะให้คำจำกัดความ เฉพาะเจาะจง เพราะทั้งสวย และโดดเด่นไม่ซ้ำกันเลย



M.A.C
เป็นตัวของตัวเอง มีเอกลักษณ์ไม่แคร์ใคร

         คำจำกัดความของความงามในแบบ M.A.C สำหรับฤดูร้อนนี้ คือการเฉลิมฉลองความงามในแบบของใครของมัน เป็นความหลากหลายของสีสันที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ถ่ายทอดออกมาเป็นเมกอัพเทรนด์ หลากหลายสไตล์ ทั้งลุค Underground Society ดูโฉบเฉี่ยวเป็นตัวของตัวเองถึงขีดสุด ส่วนลุค American Nomad สาวนักเล่นเซิร์ฟผิวสีแทนริมชายหาด ผสมกับสาวฮิปปี้จากฝั่งตะวันตก ดูเฮลท์ตี้ สุขภาพดี เช่นเดียวกับลุค Pale' N' Dandy เผยให้เห็นความเป็นธรรมชาติ ดูเรียบง่ายไม่ซับซ้อน เพิ่มความโดดเด่นด้วยเท็กซ์เจอร์แวววาวสะดุดตา สำหรับลุค Dye-A-Tribe ใช้พาเลทสีหวาน หลากหลายเฉด ผสมผสานให้กลมกลืนอย่างแนบเนียน ดูชุ่มฉ่ำ สนุกสนาน และคึกคัก ผ่านเทคนิคการเกลี่ยแบบเบามือที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบแอร์บรัช ดูซอฟต์นุ่มนวลชวนฝัน



DIOR
เสน่ห์เย้ายวนใจแบบสุภาพสตรีชั้นสูง


         เมกอัพลุคใหม่ล่าสุดของเครื่องสำอางดิออร์ ดูหรูหราเซ็กซี่และเย้ายวนใจเป็นที่สุด เพราะได้แรงบันดาลใจจากเสน่ห์ของสุภาพสตรีชั้นสูงแห่งทศวรรษ 1920 ซึ่งเป็นยุคทองของลูกไม้ ตัวแทนความเลิศหรูกูตูร์ตามแบบฉบับของ "คริสเตียน ดิออร์" ถ่ายทอดเป็นคอลเลกชั่นลิมิเต็ด เอดิชั่น "DENTELLE" อวดลวดลายลูกไม้สุดประณีตและบางเบาบนเมกอัพชิ้นพิเศษ ไม่ต่างจากการเดินลวดลายบนชิ้นงานเสื้อผ้าชั้นสูงของดิออร์ ดาวเด่นประจำคอลเลกชั่นคือ แป้งตลับลายลูกไม้ "ปูดริเยร์ ดองแต็ล" เนื้อแป้งเนียนละไม เผยให้เห็นผิวกระจ่างใส เพิ่มอารมณ์เย้ายวนแบบผู้หญิงๆด้วยการตกแต่งลวดลายลูกไม้บนเนื้อแป้ง และตลับแป้ง ขณะที่อายแชโดว์สุดหรู ถูกดีไซน์ในเฉดสีพาสเทลอ่อนหวานโทนซ้อนโทน ยิ่งดูหรูหราน่าครอบครอง เมื่อตกแต่งด้วยลวดลายลูกไม้หวาน มีให้เลือกทั้งเฉดสีเบจกับชมพูอ่อน และสีเบจกับพีชอมส้ม

SHU UEMURA
สาวแกร่งเจิดจ้าด้วยประกายชิมเมอร์


         สาวมาดแกร่งผู้เด็ดเดี่ยว ฉลาด และสง่างามคือ คีย์ลุคสำคัญของเมกอัพคอลเลกชั่นล่าสุด "egerie" สร้าง สรรค์โดย "คะคุยะสุ อูชิอิเดะ" ผู้อำนวยการฝ่ายศิลปะการแต่งหน้าระดับสากลของชู อูเอมูระ ถ่ายทอดเป็นประกายเจิดจรัสและชิมเมอร์ระยิบระยับแห่งอนาคต สะท้อนถึงความเซ็กซี่ และหรูหรา ในเวลาเดียวกัน นำเสนอออกมาเป็นภาพลักษณ์แบบแกลม ร็อก ด้วยผิวเนียนวาวแมตช์กับดวงตาคมเข้ม และลุคฟิวเจอร์ ป๊อป สื่อภาพลักษณ์แบบเทคโน-เฟรช สะท้อนแสงสีแพรวพราวบนดวงตายามต้องแสงสปอตไลต์ ดูขบถ แต่โก้หรูแบบยุค เอธตี้ส์



MAQUILLAGE
เมื่อฉันเปลี่ยน โลกก็เปลี่ยน

         ภาย ใต้คอนเซปต์เปลี่ยนคุณ ให้เป็นคนใหม่เพื่อโลกสดใสยิ่งกว่าเดิม "มากียาจ" สร้างสรรค์ เมกอัพ คอลเลกชั่นล่าสุด "A New Me, A New World" โดยใช้ ทฤษฎีการแต่งหน้า The M Rules รังสรรค์ใบหน้าให้ดูสวยเด่นกว่าที่เคย ตามอุดมคติความงามของผู้หญิงยุคใหม่ ซึ่งต่างใฝ่ฝันอยากมีดวงตากลมโต, ริมฝีปากอวบอิ่ม เย้ายวน และรูปหน้าคมเข้ม สำหรับ หลักการสำคัญของการแต่งหน้าสไตล์มากียาจ อยู่ที่การสร้างความสมดุลแบบสามมิติ หาจุดลงตัวระหว่างเฉดสีกับแสงเงา เพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูมีมิติ กลบจุดด้อย และเสริมจุดเด่น ให้ได้ลุคสวยเปลี่ยนเป็นคนใหม่ มีให้เลือก 5 เทรนด์ 5 สไตล์ ทั้งแบบ "สวีต เชลล์ ลุค" ดูโฉบเฉี่ยวนำสมัย, "มิสเทเรียส คอรัล ลุค" งามสง่าชวนมองแบบเลดี้, "เฟรช เมอร์เมด ลุค" ดูมีชีวิตชีวาด้วยดวงตาแวววาวราวกับเกลียวคลื่น, "เอเลแกนต์ สแปลช ลุค" สวยหรูสะกดทุกสายตา และ "คูล โอเชียน ลุค" อวดความสวยเนิ่นนานแบบสบายตาสบายใจ



NARS
นุ่มนวลเซ็กซี่หรูหราแบบดาวค้างฟ้า


         ได้แรงบันดาลใจจากบทบาทลูซิล ในภาพยนตร์เรื่อง La Chamade ของ "แคทเธอรีน เดอเนิฟ" ซุปเปอร์สตาร์ดาวค้างฟ้าชาวฝรั่งเศส นำมาถ่ายทอดเป็นเมกอัพคอลเลกชั่นใหม่สำหรับซีซั่น สปริง/ซัมเมอร์ 2010 โดยครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ "ฟรังซัวส์ นาร์ส" หลงใหลการแต่งหน้าของนางเอกในเรื่องนี้มาก เพราะสามารถสื่อถึงความเป็นคนชั้นกลางที่มีความรอบรู้ในแบบฉบับสาวปารีเซียง ถ่ายทอดเป็นสีสัน สนุกสนาน ทว่านุ่มนวล หนักแน่น และเซ็กซี่ แฝงไว้ซึ่งความหรูหรา ขั้นตอนการแต่งหน้าให้ได้ลุคนี้ เริ่มจากการปรับสภาพผิวให้เนียนเรียบ แล้วจึงปรับโครงแก้ม และแต่งแต้มเปลือกตาโดยไล่โทนสีน้ำตาลทองบริเวณเปลือกตาบน ไล่ออกไปที่รอบเปลือกตา ตามด้วยโทนสีน้ำตาลชิดขอบขนตา พร้อมเพิ่มโทนสีน้ำตาลทาทับ อีกชั้นด้านข้างตามแนวของโหนกคิ้ว แล้วจึงกรีดอายไลเนอร์ แต่งแต้มคิ้ว เพื่อสร้างความโดดเด่น และปัดขนตา อย่าลืมเขียนขอบปาก และแต่งแต้มลิปสติก พร้อมลิปกลอส เพิ่มความอวบอิ่มน่าจุมพิต



BOBBI BROWN
โทน สีส้มจัดฮอตตลอดซัมเมอร์

         เจ้าแห่งเทคนิคการแต่งหน้าให้สวยเนียนเป็นธรรมชาติแบบมืออาชีพ "บ๊อบบี้ บราวน์" ชวนสาวๆมาแต่งแต้มใบหน้าด้วยโทนสีส้มจัด "Cabana Corals" ที่จะมาแรงตลอดซัมเมอร์ นี้ ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ในการใช้โทนสีส้มให้สวย ไม่ดูเหมือนแต่งหน้าเยอะเกินงาม โดยเมกอัพ อาร์ทิสต์คนดังแนะนำว่า ควรแต่งแต้มเปลือกตาเปลือยเปล่าเพียงบางเบาด้วย ลองแวร์ ครีม แชโดว์ แล้วเขียนเส้นขอบตาเพิ่มมิติเพียงเล็กน้อย จากนั้นปัดแก้มปลั่งระเรื่อเบาๆในโทนสีส้มอ่อน แล้วไล้เรียวปากด้วยลิปคัลเลอร์สีคาโบ คอรัล เท่านี้ก็ได้ลุคสวยอินเทรนด์พร้อมรับซัมเมอร์

ปรับโฉมสวยใน 1 นาที


ปรับโฉมใน 1 นาที (Lisa)

          ถ้าคุณต้องพุ่งตรงจากที่ทำงานไปงานหรือนัดหมายในยามค่ำ แต่มีเวลาไม่นานนัก เราขอเวลาคุณแค่ 1 นาที เพื่อแปลงโฉมจากลุคยามกลางวันให้สวยปิ๊งพอสำหรับยามค่ำคืน

 1.ไม่ว่าคุณจะปัดมาสคาร่ามาแล้วมากแค่ไหน ปัด มาสคาร่าอีกสักรอบสองรอบ แต่คราวนี้ปัดแฉพาะที่ปลายขนตา มันจะทำให้ดวงตาคุณดูคมเข้มมากขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาแต่งเพิ่มเติม

 2. เติมสีให้แก่แก้มที่ผ่านการทำงานมาตลอดทั้งวัน โดย ใช้บลัชแบบครีม มันจะทำให้ผิวดูผ่องขึ้น โดยไม่ทำให้ดูหนาเตอะ ถ้าคุณทาแก้มด้วยบลัชแบบฝุ่นมาแล้วตลอดทั้งวัน

 3. ลิปสติกสีส้มอมชมพูให้ความสดใสและดูดีแก่ทุกสีผิว และ ดูไม่ขัดกับเสื้อผ้าที่คุณใส่ ไม่ว่าจะสีอะไรก็ตาม

 4. เติมที่คาดผมเข้าไปสักอันหนึ่ง ผมคุณก็จะ ดูแปลกตาไปจากกลางวันแล้ว

สโมกกี้อายสำหรับสาวไทย

การแต่งหน้า

สโมกกี้อายสำหรับสาวไทย (สุดสัปดาห์)
          ว่ากันว่าสาวไทยอยากแต่ง หน้าแนวสโมกกี้อายกันทั้งนั้น แต่ยังเกรงว่าจะไม่เหมาะกับตัวเอง ลองมาฟังจากเมคอัพอาร์ติสท์ชื่อดัง ลูกน้ำ - สุคนธ์ สีมารัตนกุล ให้กำลังใจสาวขี้กลัวว่า
          "การแต่งหน้าแนวสโมกกี้อายสามารถเข้ากับเสื้อผ้าได้หลายสไตล์ และไม่ยากอย่างที่คิด เทคนิคอยู่ที่สาวตา 2 ชั้นใช้อายแชโดว์โทนสีเข้มไล้ตั้งแต่หัวตามาถึงปลายหางตา แล้วเขียนอายไลเนอร์ให้หางตาตรงหรือกระดกเส้นปลายหางตายาวเฉี่ยวขึ้นก็ ได้...

          ...ส่วนสาว ตาชั้นเดียวให้ใช้ดินสอเขียนบริเวณขอบตาล่างชิดขอบตาให้มากที่สุด และลากเส้นจากหางตามาถึงกึ่งกลางตาก็พอ เส้นขอบตาจะช่วยให้ตาดูกลมโตขึ้น สุดท้ายดัดขนตาและปัดมาสคาราให้ขนตางามงอน เพียงแค่นี้ก็อินเทรนด์แล้ว"

เคล็ดลับง่าย ๆ ถนอมขนตาสวยเด้ง

ขนตา


เคล็ดลับง่าย ๆ ถนอมขนตาสวยเด้ง (เดลินิวส์)

          ขนตายาวเด้งงอนงามช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ที่ดวงตาได้ไม่น้อย และพลอยทำให้ใบหน้าดูดีมีสีสันขึ้น เหตุนี้จึงทำให้สาว ๆ ลุกขึ้นมาปัดขนตาให้งอนยาวเด้งกันยกใหญ่ ทว่าสวยเพียงอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้จักการดูแลรักษาขนตาให้แข็งแรงด้วย สถาบันลอรี อัล จึงมีคำแนะนำในการดูแลขนตามาฝากสาว ๆ กัน
  
          ก่อนอื่นเลยลองมาทำความรู้จักกับขนตากันก่อน "ขนตา" มีลักษณะเป็นเส้นโค้งทำหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับดวงตาและทำให้ กระจกตามีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ โดยมีการเรียงตัวของขน 2-4 แถวตามแนวของขอบหนังตา ซึ่งขนตาบนมีมากกว่าและยาวกว่าขนตาล่าง แบ่งโครงสร้างได้เป็น 3 ชั้น คือชั้นเปลือกขน, ชั้นนอกจะมีเม็ดสีอยู่บริเวณต่อมรากขน และชั้นใน ขนตาไม่มีกล้ามเนื้อยึดเกาะที่ตัวขน แต่มีต่อมใต้ผิวหนังจำนวนมาก

          บริเวณขนตา ประกอบด้วยต่อมเหงื่อและต่อมไขมัน อยู่ร่วมกับต่อมรากขนของขนตา ทำหน้าที่สร้างน้ำมันมาเคลือบขนตา และยังมีต่อมไขมันชนิดพิเศษเรียกว่า Meibomian gland คอยสร้างสารประเภทไขมันเหมือนฟิล์มบาง ๆ เคลือบดวงตาเพื่อป้องกันไม่ให้ตาแห้งเกินไป
  
          ขนตามีความแข็งแรงน้อยและระยะการเติบโตที่ช้า ดังนั้น จึงควรดูแลถนอมขนตาให้สะอาดแข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ คือ ...

          ทำความสะอาดมาสคาร่าออกให้หมด ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโดยเฉพาะชุบสำลีเช็ดเบา ๆ อย่าปล่อยให้มาสคาร่าเกาะติดขนตาข้ามคืน เพราะอันตรายต่อดวงตาและขนตา

          พักขนตาบ้าง เพื่อให้ขนตาได้พักผ่อนและหายใจโดยไม่มีสิ่งใดมาบัง

          กินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ขนตาแข็งแรง เนื้อวัว หมู ไข่ นมเนย ผักใบเขียว ถั่ว ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินซี และบีรวม

          บำรุงขนตา ด้วยการทาเซรั่มหรือผลิตภัณฑ์บำรุงขนตาโดยเฉพาะ จะทำให้ ขนตาแข็งแรง หลุดร่วงน้อย ควรเลือกชนิดที่ปราศจากน้ำหอมและสารระคายเคืองดวงตา
  
          หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อขนตา เพื่อไม่ให้ขนตาร่วงก่อนเวลาอันควร

          เวลาล้างมาสคาร่าต้องทำอย่างเบามือ เลิกขยี้ตาหรือถูตาแรง ๆ

          เลี่ยงการติดขนตาปลอม เพราะบางชนิดคุณภาพต่ำอาจทำให้เกิดการแพ้บริเวณขอบตา กระจกตาอักเสบ อีกทั้งเวลาดึงขนตาปลอมอาจทำให้ขนตาจริงหลุดติดมาด้วย ถ้าทำบ่อยจะทำให้ขนตาหลุดร่วง ไม่แข็งแรง หักง่าย ยิ่งถ้าขนตาปลอมไม่สะอาดพออาจทำให้ดวงตาติดเชื้ออักเสบได้

แต่งหน้าแก้ชงเสริมโหงวเฮ้ง

แต่งหน้า



แต่งหน้าแก้ชงเสริมโหงวเฮ้ง (เดลินิวส์)
            สาว ๆ ที่มีปีชงตรงกับปีขาลปีนี้ นอกเหนือจากการแก้เคล็ดเสริมดวงตามคติความเชื่อแล้ว เรายังมีเคล็ดลับ แต่งหน้าแก้ชง และ เสริมโหงวเฮ้ง มาฝากให้ได้เจิดจรัสรับปีเสือ โดย อ.นันทวัฒน์ มั่งคง ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ และโหงวเฮ้ง บอกว่า ปี เสือนี้ดุแค่ไตรมาสแรกเท่านั้นและจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นด้วย พอกลางปีเสือเริ่มหมดแรงและเชื่องตอนปลายปี แต่เสืออาจตะปบคนบ้างในช่วงเดือน มิถุนายน และ สิงหาคม แต่ช่วงปลายปีเสือจะมีแรงน้อยลง ทำได้แค่คำรามให้หวาดกลัว ไม่น่ามีใครโดนกัดมากนัก นอกจากจะลงทุนแบบเสี่ยงเกินไปหรืออยู่ในภาวะง่อนแง่นของชีวิต เพราะเสือตัวนี้ตะปบได้เฉพาะเหยื่อที่อ่อนแอมาก ๆ ฉะนั้น การแต่งหน้าในปีนี้จะเน้นสร้างความเข้มแข็งของโหงวเฮ้งเป็นพิเศษ

            ส่วนใหญ่ลิงมีรูปหน้าเป็นสามเหลี่ยม ตากลม หูกาง แก้มตอบ ปากบาง ดังนั้น สิ่งแรกที่สาวปีวอกต้องทำคือ ปรับรูปหน้าไม่ให้เหมือนลิง ด้วยการไฮไลต์ให้คางดูกลมขึ้น แก้คางไม่ให้เรียว เขียนอายไลเนอร์แบบยกหางตาขึ้นทำให้ตาดูเฉี่ยว สำหรับคนหูกางให้ทำผมปิดหู และปัดแก้มแบบขวางด้วยบลัชออนสีพีช เพื่อเพิ่มความป่องให้แก้มและดูเปล่งปลั่งเป็นพิเศษ เป็นการลดอุปสรรคและเพิ่มพลังให้เจอแต่สิ่งดี ๆ เพิ่มความอวบอิ่มให้ปากมันวาวและดูหนาขึ้นด้วยการทาลิปกลอส เน้นการแต่งหน้าที่ความละเอียดของผิว ใช้สีสว่าง ๆ ที่หว่างคิ้วและปลายจมูก เช่น สีพีช สีประกายทอง ฟ้า เขียว สโมคกี้ เทา เลี่ยงสีจัด ๆ อย่างสีแดง เติมไฮไลต์เพิ่มความสว่างของเชิงผมบริเวณหน้าผากให้ดูดีมีสง่า สำหรับ หนุ่มปีวอก ระวังไม่ให้เคราขึ้นแก้มเหมือนลิง กินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อช่วยให้หน้าตาสดใส ไม่อดนอนเพื่อไม่ให้ขอบตาดำคล้ำ และทาลิปมันเพื่อความมันวาว

            สำหรับคนทั่ว ๆ ไป การแต่งหน้าเสริมโหงวเฮ้ง ปีนี้ เน้นเพิ่มความเข้มแข็งด้านการเงิน การแข่งขัน การงานและสุขภาพ ด้านการเงิน เน้นสีประกายทอง พีช และไฮไลต์บริเวณปีกจมูก รวมถึงแก้ม ให้ดูกลมมน เพื่อให้พลังการหมุนเวียนเงินคงที่ตลอดปี เมื่อถึงครึ่งปีหลังให้ทาอายแชโดว์สีประกายทองที่เปลือกตา กระตุ้นให้เงินเก็บงอกเงย และเสริมความแกร่งด้านอสังหาริมทรัพย์ วิธีเพิ่มรายรับ ให้ใช้ ลิปกลอสแต้มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม โดยเฉพาะริมฝีปากล่างซึ่งมีไว้รับทรัพย์ ดึงดูดโชคลาภ และพูดโน้มน้าวใจให้ประสบความสำเร็จ

            ด้านการ แข่งขัน ในวันที่ดุเดือด เป็นพิเศษอย่างสอบแข่งขัน ประมูลงานหรืออยู่ในช่วงที่ต้องต่อรอง ให้ปัดชิมเมอร์ประกายเงินหรือทองที่โหนกแก้มเป็นมุมเฉียงเพิ่มความโดดเด่น และมุ่งมั่นสู่ชัยชนะ ส่วนเรื่องสุขภาพต้องดูแลให้ดีจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเสือหรือเสียเปรียบ เริ่มตั้งแต่ผมควรบำรุงให้สุขภาพดี มันวาวมีน้ำหนัก แต่งหน้าได้หลายสไตล์เช่น ทาบลัชออนบริเวณหน้าผากให้สว่าง หรือแต่งขนคิ้วให้เป็นประกาย แต้มไฮไลต์หรือชิมเมอร์ที่ขมับ เขียนอายไลเนอร์ให้หางตาไม่ตก ใช้อายแชโดว์สีอ่อน ดูสดใสมีพลังชีวิต

เคล็ดลับไม่ลับ การแต่งหน้าเจ้าสาว

วิธีแต่งหน้า
         
          สำหรับการ Review ครั้งนี้ไม่ใช่ How to นะครับ สิ่งที่ผมอยากจะเน้นในเรื่องการแต่งหน้า คือในส่วนของแนวคิด และเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการแต่งหน้า ซึ่งจะเป็นจุดเสริมให้การแต่งหน้าดีขึ้นครับ          ผมกำลังจะบอกว่าทุกคนเป็นคนแต่งหน้าให้เจ้าสาวได้ แม้แต่ตัวเจ้าสาวเอง เพราะบางทีแล้วด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างไม่อำนวย การให้คนใกล้ชิดที่มีทักษะ หรือตนเองแต่งอาจดีกว่าช่างแต่งหลายเท่า

          การแต่งหน้าเจ้าสาว ว่าไปก็ถือว่าเป็นการแต่งหน้าที่มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ทั้ง ๆ ที่แต่งออกมาแล้วดูไม่มากมาย แต่ทุกครั้งที่แต่งก็อย่าลืมนะครับว่าวันนั้นเป็นวันที่สำคัญวันหนึ่งใน ชีวิตของผู้หญิงเลยทีเดียว

          ดังนั้น ไม่แนะนำให้มาฝึกฝีมือกันในวันจริง คือวันแต่งงานกันนะครับ เพราะว่าผลงานของคุณจะอยู่ไปตลอดชีวิตของเจ้าสาวเลยทีเดียว

          พูดถึงแนวในการแต่งหน้าเจ้าสาวแล้ว แนวหลักจะเป็นแนวสวยหวาน แต่จริง ๆ แล้ว ผู้หญิงทุกคนไม่ได้สวยหวานไปซะทุกคน จึงอยากให้ผู้ที่แต่งเน้นในการแต่งโดยคำนึงถึงบุคลิกของเจ้าสาวมากกว่า แต่ก็มิใช่โลดโผนจนดูเป็นแฟชั่นมากเกินไป
          มองกลับในมุมของตัวเจ้าสาวเองในการเลือกช่างแต่งหน้า อาจดูจากผลงานที่ผ่านมาของตัวช่างแต่งหน้า และที่สำคัญคือช่างแต่งหน้าแต่ละคนมีสไตล์ของตนเองมิสามารถทดแทนกันได้ ถึงแม้เป็นช่างที่ช่างแต่งหน้าที่ตนเองชื่นชอบแนะนำก็ถ่ายทอดสไตล์ และตีโจทย์ออกมาแตกต่างกัน แต่ในที่นี้ผมมิได้หมายความว่าคนที่มาแทนจะแต่งไม่สวย แต่อาจไม่ใช่ ถ้าตัวเจ้าสาวชื่นชอบใคร อยากให้พยายามใช้ช่างคนนั้นให้ได้จะดีกว่า

          ถึงช่วงนี้เรามาเริ่มแต่งหน้าเจ้าสาวกันดีกว่าครับ
          ก่อนจะพูดถึงวิธีการ มาพูดถึงสภาพแสงในการแต่งหน้าก่อนนะครับ สภาพแสงที่ดีที่สุดในการแต่งหน้า คือแสงธรรมชาติ ซึ่งควรได้แสงในด้านตรง ไม่เอียง เพราะการเอียงทำให้สมดุลย์ของแสงเงาหน้าเสีย ริมหน้าต่างจึงเป็นแสงที่ดีที่สุด โดยผู้แต่งหันหลังให้หน้าต่าง

          หากไม่มีแสงที่เพียงพอควรใช้แสงขาวในการแต่ง โดยที่ต้องระวังแสงสีอื่น ๆ มารบกวน การตั้งไฟในการแต่งหน้าจึงควรอยู่หลังผู้แต่ง เพื่อให้แสงไม่สร้างเงากับหน้าเจ้าสาว แต่ข้อเสียของแสงขาวที่ไม่ใช่แสงธรรมชาติ คือจะทำให้ดูตัวรองพื้นดูหนาเกินความจริง เมื่อเทียบกันแสงธรรมชาติ หรือแสงเหลือง ปริมาณขอรองพื้นที่จะลงให้กับเจ้าสาวในจุดนี้จึงเป็นเรื่องของประสบการณ์ ผู้แต่งด้วย

          สำหรับ การรองพื้นควรเลือกรองพื้นที่ทำให้พื้นผิวหน้าดูเรียบเนียน ปกปิดจุดบกพร่องได้ดี อย่าคิดว่าผิวดีแล้วจะใช้รองพื้นเพียงเล็กน้อย เพราะกล้องของช่างภาพระดับ professional สามารถจับจุดบกพร่องได้ชัดอย่างที่เราคาดไม่ถึง เมื่อรองพื้นเสร็จมองให้ดี ๆ ก่อนลงแป้ง ผ่านแล้วผ่านเลยแก้ไม่ได้แล้วนะครับ จุดที่ควรสังเกตอย่างเช่นพวกแนวกราม เพราะบางทีเรามองแต่ด้านตรงจนลืมเกลี่ยซะงั้น

          ในขั้นตอนการรองพื้นควรจะเป็นขั้นตอนการสร้างมิติให้แก่ใบหน้าด้วย คือการทำไฮไลท์ และเฉดดิ้ง อย่างน้อยควรใช้รองพื้น 3 เฉด โดยแตกต่างกันประมาณ 2 เบอร์เพื่อสร้างมิติให้แก่ใบหน้า แต่หากเป็นคนที่ขาวมาก แนะนำให้ใช้เบสสีขาวมาช่วยปรับสีรองพื้นให้ขาวขึ้นกว่าผิวจริงในการไฮไลท์

          พอทราบแล้วก็จะรู้ว่าจริง ๆ แล้วผิวคล้ำจะได้เปรียบคนผิวขาวตรงเรื่องไฮไลท์เฉดดิ้งที่ทำได้ง่ายกว่า แล้วคนผิวขาวระวังละครับเฉดดิ้งเป็นแค่เงา ใส่เข้มไปจะออกแนวเป็นฝ้านะครับ

          ถามว่าทำไมต้องสร้างมิติให้ใบหน้า ก็เพราะว่าเราไม่รู้ว่าสภาพแสงในงานถูกจัดไว้อย่างไร และคงยากด้วยที่จะจัดแสงให้หน้าเจ้าสาวสวยงามตลอดเวลา เพราะงานแต่งงานไม่ใช่การถ่ายแบบ การสร้างมิติให้กับใบหน้าจากการแต่งหน้าจึงเป็นการประกันว่าใบหน้าของเจ้า สาวจะดูสวยในทุกมุมของแสง
          แล้วต้องรองพื้นบริเวณคอไหม สำหรับผมไม่ครับ เพราะหากคุณเลือกสีรองพื้นที่เหมาะกับผิวหน้าแล้ว มันก็จะกลมกลืนกับสีบริเวณคอเอง จริง ๆ อาจปัดแป้งผสมรองพื้นเล็กน้อยเพื่อให้ดูเนียนก็ได้ครับ

วิธีแต่งหน้า

          เข้าสู่รายละเอียดการแต่งหน้าเจ้าสาวแต่ละส่วน จะเริ่มแต่งส่วนไหนก็แล้วแต่ความถนัดนะครับ แต่ทุกส่วนต้องดูกลมกลืนกันไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไป
          แต่งหน้าเจ้าสาวไม่ใช่แต่งหน้าบนเวทีนางงาม ไม่ใช่แต่งหน้าถ่ายละคร หลักการของการแต่งหน้าแต่ละแบบแตกต่างกัน

          หน้าเจ้าสาวจะต้องสวยในหลากหลายแสง สวยทุกมุม และสวยทุกระยะ คนจะดูเจ้าสาวจากรอบด้าน และอาจเข้าใกล้มากจนเห็นรายละเอียดต่าง ๆ

          เริ่มต้นจากคิ้ว คิ้วเป็นส่วนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายที่สุด ทั้งนี้ด้วยการกันคิ้ว การจะกันคิ้วให้คำนึงถึงตอนเจ้าสาวเสร็จงานล้างหน้าด้วยนะครับ ไม่ใช่กันจนหาย แล้วแก้ทรงซะเกินเหตุ เห็นใจกันบ้าง
          คิ้วควรกันแต่เฉพาะในส่วนของท้องคิ้ว ไม่ควรกันด้านบนเนื่องจากทำให้ขาดความธรรมชาติ การซอยคิ้วเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความสม่ำเสมอของสีคิ้วอีกด้วย ค่อย ๆ เล็มไม่ต้องรีบ แล้วการเขียนจะง่ายขึ้น

          การเลือกสีคิ้วทีอ่อนกว่าสีผมเล็กน้อยจะช่วยให้ดวงตาดูโดดเด่นขึ้น มาสคาร่าสำหรับคิ้วจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการแต่งคิ้วเช่นกัน

          สีของเปลือกตาอาจอ่อน หรือเข้ม อันนี้สุดแล้วแต่ แต่โทนที่ปลอดภัยในการแต่งหน้าเจ้าสาวย่อมไม่พ้นสีแนว earth tone อาจผสมชมพูเล็กน้อย

          อายแชโดว์แบบมีประกายอย่าลืมใส่เล็กน้อย ช่วยได้มากเมื่อต้องกับแสงในงานทำให้ตาเจ้าสาวดูเปล่งประกายได้แบบง่าย ๆ

          อายไลเนอร์เก๋กู๊ดตวัดปลายแคทอาย ขอร้องเจ้าสาวครับไม่ใช่นางแบบ ช่างชอบ ลูกค้าชอบ อย่างไรเอาแต่พอเหมาะ เน้นเส้นไลเนอร์ที่ช่วยแก้รูปตาจะดีกว่า เส้นคมกริบสุดเนี๊ยบอาจไม่ได้ช่วยให้ดูสวยขึ้น แต่ขอบเส้นที่ฟุ้งจากการเบลนนิด ๆ จะทำให้หน้าเจ้าสาวดูละมุมนุ่มนวลขึ้นอีก
          สีอายไลเนอร์อาจไม่ใช่สีดำสนิท เพราะทำให้ตาดูแข็งเกินไป อาจใช้โทนน้ำตาลเข้ม หรือม่วงเข้มก็น่าสนใจไม่แพ้กันนะครับ (สำหรับเจ้าสาวไทย)

วิธีแต่งหน้า

          การปัดแก้มอาจปัดให้ไม่ให้เห็นสีก็ได้ เน้นในเรื่องการแก้ไขรูปหน้า มีสีเพียงเล็กน้อยพองามก็ได้ แล้วไม่ต้องห่วงสีจะซีด ปัดเผื่อไว้ก่อนนะครับ งานแต่งงานไม่ใช่งานวิ่งการกุศลที่เมคอัพจะหลุดไปได้ง่าย

          มาถึงขนตาหลายคนถามผมว่าใช้ขนตาเบอร์อะไร บอกไม่ได้จริง ๆ ครับ ไม่ได้หวงความรู้แต่อย่างใด เนื่องจากเราต้องเลือกดูว่ารูปตา ขนาดตาของเจ้าสาวแต่ละคนเหมาะกับขนตาเบอร์ใด แบบใด
          การดัดและปัดขนตาก่อนติดขนตาปลอมสำคัญมาก เพื่อให้ขนตาปลอมแนบเป็นส่วนเดียวกับขนตาจริง อาจปัดทับอีกเล็กน้อยหลังติดเพื่อความเป็นธรรมชาติ

          การเลือกมาสคาร่าที่กันน้ำ ไม่เปื้อน หรือร่วงหล่น เป็นเรื่องดีสำหรับการแต่งหน้าเจ้าสาว เพราะเราไม่รู้ว่าเจ้าสาวอาจมีฉากซึ้งต้องร้องไห้ เจ้าสาวจะได้ไม่กลายร่างเป็นนางเอกมิวสิค คราบมาสคาร่าเลอะเทอะ

          หลีกเลี่ยงได้น่าจะเป็นพวกมาสคาร่าที่มีไฟเบอร์ที่ค่อนข้างร่วงเล็ก ร่วงน้อยตลอดเวลา ทำให้การแต่งหน้าเจ้าสาวดูไม่เนี๊ยบไปซะง้าน ยกเว้นขนตาล่างอาจจะอนุโลม เพราะเจ้าสาวไทยขนตาล่างค่อนข้างสั้น แต่ด้านบนไม่ต้องเพราะเรามีขนตาปลอมช่วย อ๊ะคิดจะติดขนตาปลอมด้านล่างอย่าได้คิด เจ้าสาวครับ เจ้าสาวท่องไว้ อย่าให้แขกนึกว่ามาดูประกวดนางนพมาศเชียว

          สีปาก ก็ตอบแบบกวน ๆ ได้อีกว่าสีอะไรก็ได้ครับ ย้อนกลับไปดูด้านบนได้ ก็แล้วแต่บุคลิก และความเหมาะสม อาจบวกในส่วนความชอบได้ด้วย แต่สำหรับตัวอย่างภาพที่นำมาจะบอกว่าผมทาแต่กลอส กลอสเท่านั้นจริง ๆ เนื่องจากเจ้าสาวปากสีชมพูสวยอยู่แล้ว จะไปปิดให้เสียทำไมละครับ ทั้งนี้ ก็ต้องมั่นใจว่าถ้าจะใช้กลอสต้องเป็นกลอสที่ติดทนพอสมควรเลยทีเดียว
          โชคดีของการแต่งหน้าเจ้าสาวนิดนึงว่า เจ้าสาวจะไม่ค่อยกินอะไร นอกจากดื่มน้ำจากหลอด

          ฝากถึงเจ้าสาวนิดนึงนะครับ ว่ารับประทานอาหารให้เสร็จก่อนแต่งหน้านะครับ ลิปสติกที่ติดทนแค่ไหนก็มิอาจทานทนต่อความมันของอาหารได้
          มาถึงตรงนี้เริ่มคิดได้ถึงคำถามอีกคำถามว่าเครื่องสำอางจะติดทนตลอดงานไหม จากประสบการณ์เครื่องสำอางทนครับ ถ้าไม่โดนมือ โดนลูบ ประเภทแกะ เกา ท่าไหว้แนบจมูก ล้วนทำให้เครื่องสำอางหลุด

          แล้วถ้าเป็นคนหน้ามันมาก ๆ ละ ก็แค่ใช้กระดาษทิชชูซับหน้าเบา ๆ อย่าเอาซับมันมาใช้ละครับ เพราะจะดึงรองพื้นให้หลุดง่ายขึ้นอีก

วิธีแต่งหน้า

          จากการแต่งหน้าขอเสริมในส่วนการทำผมนิดนึง การทำผมก็มีความสำคัญมากนะครับ เพราะเป็นอีกส่วนที่ช่วยแก้ไขรูปหน้าได้
          การเลือกเครื่องประดับสำหรับผมดูให้ ดี ๆ นะครับ ซึ่งเราต้องคำนึงถึงเครื่องประดับที่เจ้าสาวใส่อยู่ไม่ว่าจะเป็นสร้อย หรือต่างหู อย่าให้มากเกินไป จะเป็นนางเอกลิเกเอาง่าย ๆ ประเภทเทียร่า มงกุฎ อันตรายมาก ต้องสมดุลย์ให้ดี เพราะมันไม่ได้ทำให้เจ้าสาวดูเป็นเจ้าหญิงเสมอไป
          ดอกไม้กลับเป็นทางเลือกที่ง่าย และสวยกว่าเครื่องประดับ แต่ก็อีกแหละครับต้องเลือกนิดนึงว่าดอกอะไรใช้ได้ ดอกอะไรใช้ไม่ได้ เพราะดอกไม้แต่ละดอกก็มีหน้าที่ของมัน ไม่ใช่เอาดอกไม้ไหว้พระมาติดผม...

วิธีแต่งหน้า

          เมื่อแต่งหน้าทำผมเสร็จแล้ว ถอยห่างออกจากตัวเจ้าสาวมองภาพรวม เสื้อผ้า หน้าผม เครื่องประดับ เดินหมุนวนรอบ ๆ เช็คความเรียบร้อยต่าง ๆ
          พยายามลดความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ การไปแก้ไขหน้างานเป็นสิ่งที่ควรทำให้น้อยที่สุด เพราะปัจจุบันเจ้าสาวอาจมีถ่ายทอดสดบรรยากาศจากหน้างาน บั้นท้ายของช่างแต่งหน้า ช่างผมจะได้ไม่ปรากฎบ่อย ๆ ที่หน้าจอ

          อ้อถามว่าต้องลงตัวไหม ก็ตอบว่าเอาแต่พอควรครับ ถ้าผิวไม่มีปัญหาอะไรแป้งมุกแบบละเอียด shimmer นิดหน่อยก็งามแล้ว เยอะไปกลายเป็นบอลดิสโก้ซะอีก

          เมื่อเรียบร้อยทุกอย่างลองถ่ายภาพดูครับ ว่าเป็นเช่นไร แอบถ่ายก่อนแต่งไว้ด้วยไว้เทียบเพื่อความแน่ใจ ซูมเข้าซูมออกดูส่วนต่าง ๆ ของใบหน้าเจ้าสาวเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง

          การแต่ง หน้าเจ้าสาวหลาย ๆ ครั้งอาจดูเรียบง่าย แต่ไม่ใช่ให้ผู้แต่งสามารถมักง่ายได้

การเลือกใช้รองพื้นให้เหมาะกับผิว



การเลือกใช้รองพื้นให้เหมาะกับ ผิว (เดลินิวส์)

         รองพื้นนั้นมีหลายรูป แต่ทราบหรือไม่ว่าแบบไหนถึงเหมาะกับผิว วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีการเลือกรองพื้นให้เข้ากับผิวมาบอก...

         รอง พื้นแบบน้ำ เหมาะกับการแต่งหน้าแบบเบาบางเน้นความเป็นธรรมชาติที่สำคัญ คือ เหมาะกับสภาพผิวที่ไม่ค่อยมีปัญหามากนัก

         รองพื้นแบบแป้งเค้ก เหมาะกับการแต่งหน้าประจำวันไม่เร่งรีบ

         รองพื้นแบบควบคุม ความมัน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวหน้าหน้ามัน หรือ ต้องทำงานกลางแดด

         รองพื้นแบบแท่ง จะเหมาะกับผิวที่มีรอยด่างดำ มีริ้วรอย หรือ ต้องการให้รองพื้นนั้นติดทนนาน

         รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมเลือกใช้รองพื้นให้เหมาะกับผิวหน้า เพื่อหน้าเนียนสวยและไม่ระคายเคือง