วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

การแต่งหน้า วิธีแต่งหน้า เครื่องสำอาง และอุปกรณ์สำหรับแต่งหน้า


เครื่องสำอางและอุปกรณ์สำหรับแต่งหน้า
วิธีแต่งหน้า

การแต่งหน้า:การลงรองพื้น

  • เริ่มด้วยการแต้มครีมรองพื้น 5 จุด บริเวณหน้าผาก จมูก แก้ม 2 ข้าง และคาง
  • เกลี่ยให้ทั่วใบหน้าจนเนียนเรียบ
  • หากต้องการลงรองพื้นแบบเบาบาง ให้ใช้ฟองน้ำเกลี่ย แต่หากต้องการการปกปิดแบบหนาให้ใช้นิ้วมือในการเกลี่ย
  • วิธีการจับฟองน้ำ ให้ใช้นิ้วกลางเป็นแกนหลักในการกดฟองน้ำให้สัมผัสกับผิวหน้า ในลักษณะคล้ายกับสปริง กดซับให้ทั่วใบหน้าจนกว่าจะเนียนเรียบ
การแต่งหน้า:การลงไฮไลท์

  • ใช้ครีมรองพื้นรอบดวงตา ปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง สีอ่อน ลากเส้นไปตามบริเวณที่ต้องการปกปิด หรือจุดที่ต้องการเสริมให้โดดเด่น ได้แก่ ใต้ดวงตา (ปกปิดรอยคล้ำ) สันจมูก โหนกคิ้ว ร่องแก้ม และคาง
  • ใช้ปลายนิ้วมือ (นิ้วกลางนิ้วนาง) เกลี่ยครีมเบาๆ จนกระทั่งเนื้อครีมเรียบกลมกลืนไปกับผิว
  • นิ้วกลางหรือนิ้วนามจะมีสัมผัสที่เบา และมีคุณสมบัติในเรื่องของความอบอุ่น ซึ่งจะช่วยให้ครีมรองพื้นรอบดวงตาและ ปกปิดริ้วรอยชนิดแ่ท่งผสมเป็นเนื้อเดียวกับครีมรองพื้น นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาการรองพื้นเป็นคราบได้ดี
การแต่งหน้า:การลงเฉดดิ้ง

  • ใช้ครีมรองพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง สีเข้ม ป้ายไปตามจุดที่ต้องการปกปิด เช่น รอยปาน กระ รอยแผลเป็น รวมถึงของจมูก เพื่อเสริมให้สันจมูกดูเด่นขึ้น จากนั้น ใช้นิ้วมือเกลี่ยให้เนียนกลมกลืน
  • หากต้องการแก้ไขรูปหน้าให้เรียวขึ้น ให้ลากครีมรองพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง เป็นเส้นไปตามแนวขากรรไกร ปีกจมูก คาง หรือหน้าผาก แล้วใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้กลมกลืนทั่วบริเวณนั้นๆ
  • ควรตรวจสอบให้มั่นใจทุกครั้งว่า บริเวณที่เฉดดิ้งไม่ทิ้งรอยคราบเป็นเส้นเ่ด่นชัด ถ้ามีควรเกลี่ยให้กลมกลืน
การแต่งหน้า:การทาแป้งฝุ่น

  • ใช้พัฟฟ์แต้มแป้งฝุ่นแล้วนำมากดซับบนใบหน้าโดยใช้นิ้วกลางเป็นตัวลงน้ำหนักเพียงเบาๆ
  • หากต้องการลงแป้งผุ่นแบบเบาบาง ให้ใช้พู่กันปลายใหญ่จุ่มแป้งฝุ่น เคาะแปรงเพื่อให้แป้งส่วนเกินหลุดออก ปัดให้ทั่วไปหน้าแทนการใช้พัฟฟ์
  • หลังจากลงแป้งฝุ่นเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้พู่กันปลายใหญ่ปัดแป้งฝุ่นส่วนเกินออกให้หมดทุกครั้ง
  • การลงแป้งฝุ่นควรลง 2 สี เพื่อเสริมสร้างมิติบนใบหน้าให้ดูเด่นชัดมากขึ้น คือ
  • ใช้แป้งฝุ่นสีอ่อน สีแฟร์ บริเวณกึ่งกลางใบหน้าหรือจุดที่มีการลงไฮไลท์
  • -ตามด้วแป้งฝุ่นสีเข้ม สีมีเดียม บริเวณกรอบหน้าหรือจุดที่มีการเฉดดิ้ง
การแต่งหน้า:การเขียนคิ้ว

  • กันคิ้วให้ได้รูปก่อนเขียนคิ้วทุกครั้ง
  • เริ่มเขียนจากหัวคิ้วไปจนถึงหางคิ้วโดยให้ส่วนหัวคิ้วตรงกับหัวตา จุดสูงสุดของคิ้ว ตรงกับขอบตาดำด้านนอก และความยาวของคิ้วให้ใช้พู่กันวางทาบจากปีกจมูกผ่านหางตาขึ้นมา
  • ใช้พู่กันปลายตัดแต้มที่ทาตาแบบฝุ่นสีเดียวกับดินสอบเขียนคิ้วเกลี่ยทับเส้นคิ้ว โดยให้หัวคิ้ว สีอ่อนกว่าหางคิ้ว
  • เกลี่ยให้สีจากดินสอเขียนคิ้วเป็นเนื้อเดียวกันกับที่ทาตาแบบฝุ่นให้เป็นธรรมชาติที่สุด
การแต่งหน้่า:การเขียนขอบตา

  • เริ่มเขียนจากของตาล่างจากหางตามาจนถึงกึ่งกลางตา โดยเขียนให้ชิดขอบตามากที่สุด
  • ส่วนขอบตาบนให้เริ่มเขียนจากหางตามาจนถึงหัวตา โดยให้เส้นหางตาหนากว่าหัวตา
  • บริเวณหางตาให้เขียนในลักษณะตัววี จากนั้นใช้ปลายดินสอเขียนขอบตาด้านที่เป็นฟองน้ำเกลี่ยเส้นขอบตาบนให้กระจายออก เพื่อทำให้ดวงตาดูนุ่มขึ้น
  • ส่วนขอบตาล่างให้ใช้ปลายดินสอด้านที่เป็นฟองน้ำแต้มที่ทาตาแบบฝุ่นสีเีดียวกันเกลี่ยทับอีกครั้งหนึ่ง เพื่อป้องกันการซึมเยิ้มระหว่าวัน
การแต่งหน้า:การทาที่ทาตาแบบฝุ่น

  • ควรทาตาแบบฝุ่นอย่างน้อย 3 สีในเฉดเีดียวกัน
  • ลงสีอ่อนสุดทั่วเปลือกตาและโหนกคิ้ว เกลี่ยให้เนียนเรียบ
  • จากนั้นลงสีกลางเป้นสีที่ 2 บริเวณหัวตามาจนถึงกึ่งกลางตา เกลี่ยให้เนื้อสีกลมกลืนกัน
  • สุดท้ายให้ลงสีที่เข้มที่สุดบริเวณหางตา เกลี่ยเข้ามาจนถึงกึ่งกลางตาให้สีกระจายกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกันทั่งเปลือกตา อย่าให้เห็นเส้นแบบขอบสี
การแต่งหน้า:เติมแต่งขนตาด้วยมาสคาร่า

  • เริ่มต้นด้วยการดัดขนตาก่อน โดยดัดเป็น 3 จังหวะหรือ โคนขนตา กึ่งกลางขนตา และสุดท้ายให้ดัดที่ปลายขนตา
  • การปัดขนตาบน ให้มองต่ำและใช้มาสคาค่าปัดจากโคนขนตาออกมา ให้ปัดซ้ำอีกครั้ง หากต้องการให้ขนตาดูงอนหนามากขึ้น
  • การปัดขนตาล่าง ให้เหลือบตาขึ้นข้างบนและใช้ปลายมาสคาร่าปัดเบาๆ
การแต่งหน้า:การเขียนขอบปาก

  • เริ่มต้นด้วยการบำรุงริมฝีปากก่อนเสมอด้วย เชียร์ ลิบ คัลเลอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปาก
  • เขียนขอบปากโดยเริ่มที่รอบหยักกึ่งกลางริมฝีปากบนให้เป็นรูปตัววี จากนั้นค่อยๆเขียนจากมุมปากมาจรดกับหางตัววีให้โค้างสวยเป็นเส้นเีดียวกัน
  • ส่วนริมฝีปากล่ายให้เริ่มที่กึ่งกลางริมฝีปาก เขียนให้เป็นรูปตัวยู จากนั้นค่อยๆ เขียนจากมุมปากมาเชื่อมให้เป็นเส้นเีดียวกัน
การแต่งหน้า:การลงสีลิปสติก

  • ใช้พู่กันทาปากทางลิปสติกเติมภายในขอบปากที่วาดไว้ โดยเริ่มจากมุมปากล่าง เข้ามาที่ส่วนกลางของริมฝีปาก
  • จากนั้น ทาลิปสติกที่ริมฝีปากบน เริ่มจากมุมปากเข้ามาที่ส่วนกลางเช่นกัน
  • สีลิปสติกที่ใช้ควรเป็นสีเีดียวกับดินสอเขียนขอบปากเพื่อให้เกลี่ยได้กลมกลืนเป็นธรรมชาติ
การแต่งหน้า:การแต่งแต้มสีสันลงบนแก้ม

  • ปัดที่ทาแก้มแบบฝุ่นบริเวณพางแก้ม โดยปัดเฉียงขึ้นไปทางใบหูให้เนื้อสีเนียนกลมกลืนเป็นธรรมชาติ
  • สีบรัชออนที่ใช้ต้องเป็นเฉดสีเดียวกับสีสันที่ใช้บนใบหน้า
การแต่งหน้ากรณีพิเศษ
การแต่งหน้าสำหรับตอนกลางวัน
  • ลงครีมรองพื้นชนิดเหลวที่เหมาะกับสภาพผิวเพียงบางๆ
  • ปกปิดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ดวงดาด้วครีมรอบพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง และเกลี่ยให้เนียนเรียบ
  • ทาทับแป้งฝุ่นให้ทั่วใบหน้า
  • ใช้แปรงปัดขนคิ้ววาดให้ดูเป็นรูปคิ้วสวยงามแต่ไม่คมชัดจนเกินไป
  • ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดเส้นตามแนวขอบตาด้านบน
  • ทาตาด้วยที่ทางตาสีอ่อนหรือสีกลางจากขอบตาจนถึงคิ้ว
  • ทางสีเข้มเพื่อเพิ่มความเ่ด่นบนดวงตา เกลี่ยให้ทั่วแนวโหนกคิ้วเพื่อให้ดวงตาเป็นรูปอัลมอนด์ สามารถใช้สีเดียวกันนี้ทาไล้ไปตามแนวขอบตาด้านล่างได้
  • ปัดมาสคาร่าที่ขนตาด้านบนและด้านล่าง
  • ปัดที่ทาแก้มแบบฝุ่นบางๆ ที่ได้บริเวณโหนกแก้มไปจนถึงแนวเส้นผม
  • ใช้ดินสอเขียนขอบปากวาดรูปปากแล้วทาลิปสติกสีกลางหรือสีเข้มสำหรับวันทำงาน และสีอ่อนสำหรับวันพักผ่อน




การแต่งหน้าสำหรับตอนกลางคืน
  • ทาครีมรองพื้นให้หนากว่าตอนกลางวัน โดยใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ กับแป้งแข็ง ผสมรองพื้นเกลี่ยให้เนียนเรียบทั่วใบหน้า
  • ปกปิดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ดวงตาด้วยครีมรองพื้นรอบดวงตา และ ปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง
  • ปัดทับด้วยแป้งฝุ่นอีกครั้ง
  • ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีเข้มกว่าสีคิ้วธรรมชาติ เขียนคิ้วให้ได้สัดส่วนและดูเป็นธรรมชาติ
  • ทาตาด้วยที่ทาตาสีอ่อนจากขอบตาจนถึงคิ้ว
  • ทาสีเข้มเป็นเส้นบางๆ บริเวณรอบพับบนเปลือกตา จะำทำให้ดวงตาดูโตขึ้นและโหนกคิ้วดูเด่นขึ้น
  • เกลี่ยด้วยที่ทาตาสีกลางเพื่อเน้นความงามและทำให้ดวงตาแลดูคมเข้มขึ้น
  • วาดไฟน์ไลเนอร์สีดำที่ขนตาด้านบน โดยเริ่มจากหัวตาเป็นเส้นบางๆ ก่อนแล้วเริ่มวามให้หนาขึ้นตรงบริเวณม่านตา จากนั้นลากเส้นต่อในแนวเฉียงขึ้นเหนือหางตา
  • ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดที่ขอบตาด้านล่าง
  • ไม่ควรเขียนขอบตาจนถึงหางตาเพราะจะทำให้ดวงตาเล็กลง
  • ปัดมาสคาร่า 2 ครั้งที่ขนตาบนและล่าง
  • ปัดแก้มด้วยที่ทาแก้มแบบฝุ่นสีกลางและสีเข้มบริเวณใต้โหนกแก้ม ปัดสีอ่อนกว่าทับสีเข้ม บริเวณกลางแก้ม และเกลี่ยขึ้นไปจนถึงบริเวณแนวเส้นผม
  • วาดรูปปากด้วยดินสอเขียนขอบปาก แล้วจึงทาลิปสติก
การแต่งหน้าสำหรับวัยผู้ใหญ่
  • ใช้ครีมรอบพื้นชนิดเหลวสำหรับการรอบพื้นแบบบาง และครีมรอมพื้นชนิดอัดแข็งสำหรับการรองพื้นแบบหนาเพื่อเพิ่มความชุ่นชื้น
  • ปกปิดรอบคล้ำใต้ดวงตาด้วยครีมรองพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง
  • เนื่องจากสีผิวจะเปลี่ยนไปตาวัย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตรวจดูสีของครีมรองพื้นด้วย โดยควรตรวจดูทุก 3-4 ปี เพื่อให้เข้ากับผิว
  • ตบท้ายด้วยการปัดแป้งฝุ่น หากทาแป้งหนาเกินไป ริ้วรอยต่างๆจะถูกเน้นให้เด่นชัดขึ้น
  • ตกแต่งรูปคิ้ว หากจะใช้ดินสอเขียนคิ้ว ควรหลีกเลี่ยงสีดำเพราะจะดูเข้มเกินไป
  • ให้ที่ทาตาสีอ่อนที่ดวงตาตั้งแต่ขอบตาจนจรดคิ้ว
  • เกลี่ยด้วยที่ทาตาสีกลางบริเวณรอยพับของเปลือกตา แล้วเกลี่ยไปจนถึงโหนกคิ้ว ไม่ควรใช้ที่ทาตาสีมุก เพราะสีมุกจะเน้นรอยย่นของผิวที่แห้งและรอยย่นตามวัยให้เด่นชัดขึ้น
  • แนะนำให้ใช้ที่ทาตาสีม่วง เทา หรือสีเขียว เกลี่ยบริเวณขอบตา ไม่ควรทาสีใดๆ บริเวณขอบตาด้านล่าง เพราะจะทำให้ดวงตาดำคล้ำ ดูเหมือนอิดโรยและอดนอนมากขึ้น
  • ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดตามแนวขอบตาและเกลี่ยเบาๆ โดยหลีกเลี่ยงสีเข้ม แนะนำให้ใช้สีม่วง น้ำเงิน หรือน้ำตาล
  • ปัดมาสคาร่า 2 ครั้ง เลือกสีน้ำตามเข้มหรือสีฟ้า เพราะสีดำจะเข้มเกินไป
  • เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหน้าก็จะหย่อนยานตามวัย การปัดที่ทาแก้มแบบแป้งฝุ่นด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะช่วยพรางความหย่อนยานโดยช่วยยกพวงแก้มขึ้นได้
  • ปัดแก้มจากพวงแก้มจนถึงแนวเส้นผม โดยเน้นเฉพาะบริเวณกลางพวงแก้ม
  • เฉดสีที่ทาแก้มที่ควรใช้คือ สีชมพูอ่อนและสีพีช
  • เพื่อป้องกันไม่ให้ลิปสติกซึมเลอะขอบปาก ให้ทาครีมรองพื้นที่ริมฝีปากแล้วปัดทับด้วยแป้งฝุ่น
  • ใช้ดินสอเขียนขอบปากเพื่อเน้นริมฝีปาก แนะนำให้เลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีลิปสติกที่คุณใช้อยู่
  • สำหรับลิปสติก แนะนำเฉดสีชมพูและแดงในเฉดสีกลางไปจนถึงสีสด
การแต่งหน้าสำหรับผู้สวมแว่นตา
  • แต่งหน้าให้ทั่วใบหน้าโดยไม่เว้นแม้แต่แก้มหรืิอริมฝีปาก
  • ตรวจดูสีของกรอบแว่นด้วยว่าเป็นโทนสีร้อนหรือสีเย็น เพื่อแต่งหน้าให้กลมกลืนไปกับขอบแว่น
  • คิ้วควรจะอยู่ในระดับเดียวกันกับกรอบแว่น หรือสูงกว่าเล็กน้อย
  • สีของที่ทาตาสามารถเลือกเฉดสีเข้มขึ้นเล็กน้อยได้ เพราะกระจกแว่นจะลดความเข้มของสีลง
  • สร้างความสมดุลระหว่างความเข้มของสีที่ทาตา เพื่อให้ดูกลมกลืนไปกันได้กับแว่นตา
  • ใช้ดินสอเขียนขอบตาพอประมาณ ควรจะใช้ชนิดสีมากกว่าสีดำหรือน้ำตาล
  • อย่าลืมปัดมาสคาร่าเป็นอันขาด
  • หากใส่แว่นกรอบใหญ่ ควรปัดแก้มบริเวณโหนกแก้มด้วย เพื่อที่จะได้มองเห็นผ่านเลนส์แว่นตา
  • หากกรอบแว่นสีเข้ม ควรจะทำให้เครื่องสำอางบนใบหน้ากลมกลืนกันด้วยการใช้ลิปสติกสีเข้ม
การแต่งหน้าสำหรับวัยรุ่น
  • เริ่มต้นด้วยการใช้แป้งแข็งผสมรองพื้นให้ทั่วใบหน้า ควรเลือกสีที่เข้ากับสีผิวเพื่อความเป็นธรรมชาติ
  • ปัดขนคิ้วให้เข้ารูป
  • ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดเส้นตามแนวขอบตาแล้วเกลี่ยเบาๆ แนะนำให้ใช้สีน้ำเงินหรือสีน้ำตาล
  • ปัดมาสคาร่าสีน้ำตาลเพียงครั้งเดียว
  • ปัดแก้มบางๆ ด้วยที่ทาแก้มเฉดสีชมพู หรือสีพีช
  • ทาปากด้วยเชียร์ กลอสส์ หรือลิปสติกสีธรรมชาติ
การแต่งหน้าสไตล์แอ็บแบ๊ว
  • ก่อนแต่งหน้าทามอยซ์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบหน้าทุกครั้ง แต่ต้องรอสัก 10 นาทีให้ครีมบำรุงซึมซาบเข้าสู่ผิวก่อนจะเริ่มแต่งหน้า
  • ทาแป้งฝุ่นอัดแข็งเนื้อบางเบาหรือ loose powder โดยเลือกเนื้อแป้งที่สีกลมกลืนกับผิว อย่าพยายามใช้โทนสีขาวที่อ่อนกว่าผิวจริงของตัวเองมาก เพราะจะทำให้หน้าวอกดูเฟค
  • ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีชมพูหรือสีพีช โดยเน้นปัดที่โหนกแก้ม ไล้จากขอบหน้ามาถึงประมาณกลางลูกตาดำ แล้วปัดวนเป็นวงกลมๆ จะช่วยให้ใบหน้าดูมีเลือดฝาก สุขภาพดี มีเสน่ห์ น่าหอม
  • ทาอายชาโดว์สีน้ำตาลอ่อนเมทาลิค หรือสีเบจเป็นสีพื้นให้ทั่วเปลือกตา
  • เขียนขอบตาให้คมชัด โดยใช้ดินสอเขียนขอบตาสีน้ำตาลหรือดำ วาดจากหัวตาไปจนถึงหางตา แล้วตวัดปลายชี้ขึ้นเล็กน้อย 
  • ดัดขนตา ซึ่งต้องดัดตั้งแต่โคนขนตาขึ้นไปกลางขนตา และก็ดัดที่ปลายขนตารวม 3 steps แล้วปัดมาสคาร่าชนิดเพิ่มความหนาและความยาว 
  • ทาริมฝีปากด้วยลิปบาล์มเพิ่มความชุ่มชื้น แล้วทับด้วยลิปกลอส หรือลิปเจลสีชมพูอ่อนๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น